2/05/2552

My Favorite stuff : Movie



หลังจากที่ไม่ได้มาเขียนบทความนานมาก
จนหลายคนคิดว่าบทความที่แล้วเป็นสิ่งที่เราจะเขียนซะแล้ว - -
แต่วันนี้จะเขียนเกี่ยวกับ My favorite stuff จริงๆจังๆซักทีละ

สิ่งที่เราชอบก้คือการอ่านหนังสือ และการดูหนัง
และเมื่อเร็วๆนี้เราได้ไปซื้อหนังมาเรื่องนึง
เรื่อง Tokyo Tower - Mom & Me, and sometimes Dad
คือตอนแรกจะไปหาหนังเรื่อง always มาดู
เพราะเห็นอาจารย์เอามาโชว์ในคาบ intro film
แต่พอเจอเรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจซื้อมาด้วย






หนังเรื่องนี้เป็นหนังญี่ปุ่นที่เป็นเรื่องราวของแม่กับลูก ... พ่อ และเด็กๆ ... ความรักและมิตรภาพ ความหมายของวัยเยาว์ ผ่านความรู้สึกของความทุกข์ ความเศร้า ความเหงา และความรัก จากความทรงจำที่คุณมีให้กับผู้ที่รักคุณที่สุด

หนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือนิยายชื่อเรื่องเดียวกัน
แต่อันที่เป็นหนังสือเราก็ยังไม่เคยอ่านนะ เดี๋ยวมีโอกาสต้องไปหาซื้อมาอ่าน

เรื่องย่อ
TOKYO TOWER Mom & Me, and sometimes Dad ถ่ายทอดเรื่องราวจากความทรงจำของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีให้แก่แม่ของเขา เรื่องราวของ เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมความฝัน ที่เดินทางจากบ้านเกิดตัวเอง เพื่อมุ่งหน้าสู่โตเกียว ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง “ ลูกชาย “ รับบทโดย โจ โอดางิริ ที่เป็นหนึ่งในเด็กหนุ่มเหล่านั้น เขาหลงใหลไล่ตามความฝันของตัวเองอยู่นานปี และใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ โดยหวังว่าสักวันเจะประสบความสำเร็จ จนวันหนึ่งเขารู้ข่าวว่า แม่กำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และนั้นคือจุดเริ่มต้นของการที่ผู้ชายคนหนึ่ง ได้เรียนรู้คุณค่าของการมีชีวิตอยู่อีกครั้งหนึ่ง ผ่านความทรงจำแห่งความรักที่แม่มีให้แก่เขา “พ่อของผม ถูกหักอกโดยมหานครโตเกียว เขาเดินทางกลับบ้านเกิด, ส่วนผม ทิ้งบ้านเกิดเพื่อเดินทางสู่เมืองใหญ่ จนทำให้หลงลืมคนที่อยู่ข้างหลัง , แม่ของผมคือผู้หญิง ผู้มั่นคง แต่ภาระทำให้เธอต้องละทิ้งความสุขส่วนตัว ความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอคือการที่ได้ไปยืนอยู่บนหอคอยโตเกียวพร้อมกัน พ่อ แม่ ลูกพวกเขาทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันตั้งแต่ตอนวัยรุ่น โดยที่แม่คิดว่านี่ผู้ชายที่เธอรัก และความรักคงจะเปลี่ยนเขาได้ สามารถหยุดอารมณ์รุนแรงเวลาที่เขาเมาได้ แต่แล้ววันหนึ่งความอดทนของแม่ก็ถึงขีดสุด เมื่อพ่อเมากลับบ้านและระเบิดอารมณ์ใส่ผม ผมจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแต่ว่า จากนั้นแม่เลี้ยงผมมาโดยลำพัง แม่ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อย ไม่เคยบอกว่าไม่ได้เวลาผมเอ่ยปากขออะไร ทุกครั้งที่ผมกลับมาบ้านจะมีอาหาที่แม่ทำไว้รอผมอยู่ที่บ้านเสมอเมื่อผมโตขึ้นผมบอกแม่ว่า ผมจะไปโตเกียว ไปทำความฝันของพ่อที่จะเป็นจิตรกรให้เป็นจริง ผมเชื่อว่าผมจะต้องทำได้ แม่ให้ผมไปโดยไม่เคยทัดทานอะไรเลย แม่ส่งเงินมาให้ผมเสมอ เวลาที่ผมเดือดร้อน เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี ผมก็ยังคงหวังเสมอว่าสักวันผมจะประสบความสำเร็จให้แม่ได้ภุมิใจ แต่แล้ววันหนึ่งผมเพิ่งได้ข่าวว่าแม่ไม่สบาย แม่ไม่เคยบอกผมมาก่อนว่าแม่ป่วย .. ด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายแม่ครับ จากนี้เวลาผมกลับบ้าน จะมีใครคอยทำกับข้าวไว้รอผมไหม .... ผมขอโทษครับแม่และผมอยากให้แม่มาอยู่กับผมที่โตเกียวนะครับ “
ข้อมูลจาก http://www.showded.com/

หนังเรื่องนี้
ได้ชื่อนี้มาเพราะ ความฝันของแม่ที่ต้องการที่จะขึ้นไปอยู่บนหอคอยโตเกียวพร้อมกันพ่อแม่ลูก
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขึ้นไป เพราะแม่เสียชีวิตก่อน
ตอนจบลูกก็ได้อ่านจดหมายของแม่ที่เขียนทิ้งเอาไว้
จึงได้รู้ว่าความรักที่แม่มีต่อลูกนั้นมากมายเพียงใด
สุดท้ายลูกจึงนำภาพของแม่ในโทรศัพท์มือถือขึ้นไปบนหอคอยโตเกียว
เพื่อให้แม่ของเขาที่เสียไปแล้วได้เห็นวิวบนหอคอยโตเกียว
และสุดท้ายลูกก็สำนึกได้ว่า
คนที่รักเขามากที่สุดแล้วก็คือผู้หญิงที่อยู่ใกล้ตัวเขามากที่สุด
แต่เขากลับแทบไม่เคยสนใจเลย
ก็คือแม่ของเขานั่นเอง

ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเลยว่า
ถ้าในวันนี้ที่คนที่คุณรักยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ควรจะหาโอกาสที่จะมอบความรักและความห่วงใยแก่เขา
ก่อนที่เราจะเสียคนๆนั้นไป
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีและเราก็ชอบมากเลยนะ
เราก็เลยอยากเขียนเรื่องของหนังเรื่องนี้
เดี๋ยวคราวหน้าก็อาจจะไปหาเรื่องใหม่ๆมาเขียอีกละกันนะ
ขอบคุนเพื่อนๆที่มาเม้นนะ
ในบทความอันเก่าก็ด้วยนะ

17 ความคิดเห็น:

  1. ยังไม่เคยดูซักเรื่องเลย
    ที่กอล์ฟพูดมาเนี่ย
    แต่ตอนเรียนintro film
    ก็ได้รู้จักหนังน่าดูเยอะเลยเนอะ

    ตอบลบ
  2. โอ้โห
    มีข้อคิดด้วย
    ไม่เคยดูอ่ะเรื่องนี้

    ตอบลบ
  3. แกสปอยล์ตอนจบซะงั้นน่ะ !

    - -"


    กะว่าพุ่งนิจาดูแหละ
    มีแต่คนบอกว่าดี :)

    ตอบลบ
  4. เศร้าจังเลย
    นานๆจะเจอหนังญี่ปุ่นที่ทำออกมาในรูปความรักของครอบครัวนะเนี่ย
    ต้องไปหามาดูมั่งละ

    ตอบลบ
  5. ท่าทางจะเศร้าแฮะเรื่องนี้

    เรื่อง always คาบ intro film พูดถึงบ่อยมากจนรู้เรื่องได้โดยที่ไม่ต้องดูเลย

    ตอบลบ
  6. อ่านไประวัง spoil ไป 555+

    กะว่าจะหามาดูอยู่เหมือนกัน

    เรื่องที่อาจารย์รัตนา แนะมาก็จดไว้หมดละ

    ขึ้นอยู่กะว่าจะมีปัญญาไปหามาจากไหน *-*

    ว่าแต่วันนั้นเจอ always วางแผงขายอยู่ที่ MBK ชั้น 1

    ตอนนี้ไม่มีแล้วมั้ง ไม่ได้ซื้อมาด้วยดิ

    ตอบลบ
  7. ชอบดูหนังเหมือนกันนะ แต่ไม่ชอบหนังเศร้าอ่ะ ไม่อยากร้องไห้ เพราะรู้ว่าตัวเองต้องร้องแน่ๆๆ แค่อ่านก็เสร้าแล้ววววววววววววว..

    ตอบลบ
  8. โอโห เป็นหนังที่ดีจิง ๆ เกิดมายังไม่เคยเห็นหนังที่ไหนดีเท่านี้มาก่อน เรารู้สึกดีใจมากเลยที่ได้เกิดมาบนโลกที่มีหนังเรื่องนี้

    ตอบลบ
  9. T-T

    อ่านแล้วขนลุกอะ หาเรื่องอะไรมานำเสนอเนี่ย - -

    ว่าแต่ ฟังภาษาญี่ปุ่นเลยป่ะเนี่ย = =

    หรือว่า ไทยอะ...

    ตอบลบ
  10. อ่านแล้วเหมือนกันเรื่องนี้

    แอบเศร้าอ่ะ

    ตอบลบ
  11. เพื่อนเราไปดูTokyo Tower
    คนนึงนั่งร้องไห้ไหแทบแตก อีกคนหลับหน้าด้านๆ
    เราก็เลยงงว่าตกลงหนังมันดีรึเปล่า
    แต่เราก็อยากจะลองไปหามาดูเหมือนกันนะ

    ตอบลบ
  12. หือ ... ซึ้งจริง
    "ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเลยว่า
    ถ้าในวันนี้ที่คนที่คุณรักยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
    ควรจะหาโอกาสที่จะมอบความรักและความห่วงใยแก่เขา
    ก่อนที่เราจะเสียคนๆนั้นไป "

    บางทีถ้าทำได้น่ะนะ ...
    แต่ถ้าคนที่เรารักไม่เคยเข้าใจว่าเราพยายามจะมอบอะไรให้เขา มันก็น่าน้อยใจนะ ทั้งที่พยายามแล้วในขณะที่ยังไม่ตายจากกัน แต่มันก็ยังไร้ความหมาย ... เราค่อนข้าง sensitive กับเรื่องแบบนี้มากทีเดียว อิทธิพลจากการ์ตูนสินะ...สินะ?

    ตอบลบ
  13. Tokyo Towers น่าดูอ่ะ ต้องไปหามาดูบ้างแล้ว

    ต้องเศร้ามากแน่ๆเลย

    เค้าเคยดู always แล้ว ซึ้งมาก เป็นหนังที่ดีนะ ประทับใจดี

    ดูเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกต่างหาก อินเข้าไปใหญ่เลย ฟังไม่รู้เรื่องหรอก แต่มีซับไทยให้อ่าน

    ไปดูกะเพื่อนตอน ม.5 ร้องไห้ ไม่หยุดเลย ร้องหลายรอบมาก


    เรียนintro film ได้ดูหนังเยอะเลยอ่ะดิ อิจฉาๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  14. อ่านแล้วคิดถึงพ่อกับแม่เลยอ่ะ


    อยากกลับบ้านนนนน

    ตอบลบ
  15. ไม่รุจักอ่ะ

    แต่น่าดูมากๆ แต่รุสึกเนื้อเรื่องเศ้าไปหน่อย

    ไว้จาไปหามาดู

    ตอบลบ
  16. รุ้จักนะ แต่ไม่เคยรู้ว่ามีเป็นหนังด้วย

    เราเคยอ่านหนังสือเรื่องนี้นะ แต่อ่านไม่จบ

    เพราะเวอร์ชั่นหนังสือมันแอบยืด+ยาวมากๆ

    ยังไงถ้าจะอ่านหนังสือก้อบอกนะ เด๋วเอาไปให้ยืม

    ตอบลบ
  17. ที่ถามเรื่อง Jack

    จาบอกว่าตอนเป็นซานต้า Jack ก็ใส่ชุดซานต้า มีหนวด แล้วก็ใส่หมวก

    เรียกได้ว่าโครงกระดูกใส่ชุด ยังผอมเหมือนเดิม

    แต่ก็หล่อออออ น่ารัก


    เรื่อง Tokyo Towers มีคนบอกให้ดูหลายคนแล้ว

    แต่เราขอยืนยันคำเดิมว่าไม่ดู เพราะมันเศร้า ไม่อยากร้อง

    แบบว่าบ่อน้ำตาตื้น ต่อให้เป็นหนังดีแค่ไหนก็จะไม่ดู หุหุ

    ตอบลบ